ลองจินตนาการดูว่า…คุณตื่นมาในที่ที่ทุกอย่าง “เพอร์เฟกต์” ไปหมด
.
อยากกินอะไรก็ได้กินทันทีแบบไม่อ้วน อยากได้บ้านแบบไหนก็ได้มาเลยไม่ต้องผ่อน อยากเจอคนดังคนไหนก็โผล่มานั่งคุยด้วยได้ทันที
.
ไม่มีเดดไลน์ ไม่มีบิลค่าใช้จ่าย ไม่มีปัญหารถติด ไม่มีใครดราม่าใส่ในไลน์กลุ่ม
.
ฟังดูเป็นสวรรค์เลยใช่ไหมละครับ?
.
แต่ผมเพิ่งดูซีรีส์ The Good Place จบ (โครตดีบอกเลยว่าถ้าใครยังไม่ได้ดูควรอย่างมาก) สอนบทเรียนหนึ่งที่โคตรสำคัญมากๆ คือ
.
“ถ้าทุกอย่างสมหวังตลอดไปแบบไม่มีวันจบ สุดท้ายเราจะทุกข์โคตร ๆ เลย”
.
เพราะอะไร?
🌈 [ สวรรค์ที่ได้ทุกอย่าง…จนไม่มีอะไรเหลือให้รู้สึกอีกต่อไป ]
.
ในซีรีส์ The Good Place ช่วงท้าย ๆ ตัวละครหลักได้ไปอยู่ “สวรรค์จริง ๆ” สวรรค์ที่ว่าไม่ได้มีแค่เมฆฟุ้ง ๆ กับนางฟ้าบินไปมา แต่มันคือที่ที่คุณ “ได้ทุกอย่างที่อยากได้” อยากทำอะไร ก็ทำได้หมด
.
ทุกคนใจดี ทุกอย่างเป็นบวก ไม่มีปัญหา ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีความผิดพลาด ฟังแบบนี้ชีวิตน่าจะแฮปปี้นิรันดร์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ…คนที่อยู่ที่นั่นมานาน ๆ มีอาการที่เรียกว่า “หมดอาลัยตายอยาก” ครับ
.
เหมือนซอมบี้ที่ยิ้มได้ แต่ดวงตาไม่มีประกาย
.
ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีอะไรให้ตั้งใจทำ ไม่มีอะไรให้รอคอย
.
เพราะเมื่อคุณรู้ว่า “เดี๋ยวอย่างไรก็ได้อีกเรื่อย ๆ มีมาเรื่อยๆ ไม่รู้จบ”
.
คุณจะเริ่มถามตัวเองแล้วว่า “แล้วกูจะตื่นมาแต่ละวันไปทำไมวะเนี้ย?”

🎈[ ความหมายของชีวิตไม่ได้มาจากความสุข แต่มาจาก “ข้อจำกัด” ]
.
ก่อนอื่นผม ‘ไม่ได้กำลังจากบอกว่าความทุกข์เป็นเรื่องที่ดี’ นะครับ มีปัญหาบนโลกนี้และมีความทุกข์มากมายที่ควรจะได้รับการแก้ไขเพื่อให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดี
.
และอีกด้านหนึ่ง ปัญหาก็ไม่ใช่ว่าความสุขไม่ดีเหมือนกัน เพียงแต่ “ความสุขที่ไม่มีข้อจำกัด” มันทำลายความหมายของมันเอง
.
ลองคิดง่าย ๆ ไอศกรีมก้อนโปรด ถ้าคุณได้กินเดือนละครั้ง คุณจะมีความสุขมาก แต่ถ้าคุณต้องกินมันทุกมื้อ ทุกวัน ตลอดไป สักพักคุณจะอยากเขวี้ยงถ้วยทิ้งแน่นอน
.
เพื่อนที่มีฐานะของผมคนหนึ่งเคยบอกว่า ‘ถ้าให้กินโอมากาเสะทุกวัน ความสุขของการกินโอมากาเสะก็จะหายไปทันที’ มันคงเป็นแบบนั้น
.
ของที่พิเศษ กลายเป็นของธรรมดา ของธรรมดา กลายเป็นของน่าเบื่อ
.
ในชีวิตจริงก็เหมือนกัน เราให้คุณค่ากับอะไรบางอย่าง เพราะเรารู้ว่า “มันไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป” อย่างทริปท่องเที่ยวมันพิเศษ เพราะเราต้องกลับบ้าน ช่วงปีใหม่มันมีความหมาย เพราะมันมีแค่ปีละครั้ง หรือเวลานั่งกินข้าวกับพ่อแม่มันมีความสำคัญ เพราะเรารู้ว่าเขาจะไม่อยู่กับเราไปตลอด
.
การจากลา ความแก่ชรา ความเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดนี้คือ “ข้อจำกัด” ที่ทำให้ชีวิตความหมาย
🪟 [ จัดกรอบชีวิตอีกครั้ง ]
.
เป็นเรื่องปกติที่เราไม่อยากคิดถึงจุดจบ เพราะมันดูน่าหดหู่และหมดหวัง
.
แต่จริง ๆ แล้วการยอมรับว่าวันหนึ่งจุดนั้นจะมาถึง คือการจัดกรอบชีวิตให้ชัดเจนมากขึ้น
.
คุณจะเริ่มถามตัวเองมากขึ้นว่า:
.
- ถ้าฉันมีเวลาอยู่แบบนี้จริง ๆ ฉันยังโอเคกับงานที่ทำอยู่ไหม?
. - คนที่ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่ด้วยตอนนี้ คือคนที่ฉันอยากอยู่ด้วยจริง ๆ หรือเปล่า?
. - สิ่งที่ฉันผัดวันประกันพรุ่งมาตลอด มันคุ้มไหมถ้าจะผัดไปเรื่อย ๆ จนไม่มีโอกาสทำ?
.
จุดจบทำให้คำถามเหล่านี้น่าอึดอัด แต่มันก็ทำให้เราซื่อสัตย์กับตัวเองขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกัน
❤️🩹 [ ชีวิตที่ดี ไม่ใช่ชีวิตที่ “ไม่มีวันจบ” แต่คือชีวิตที่เราไม่เสียดายตอนมันจบ ]
.
ท้ายที่สุดของซีรีส์ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมีจุดจบ (แต่ขอเก็บไว้เผื่อคนไปดูกันต่อครับ)
.
ประเด็นจึงไม่ใช่ว่าเราจะอยู่ได้นานแค่ไหน แต่คือ “ระหว่างทาง” เราเอาเวลากับหัวใจของเราไปวางไว้ที่ไหนบ้าง
.
จุดจบไม่ได้มีไว้ทำร้ายเรา มันมีไว้เตือนเราให้ “เลือก” อะไรบางอย่างอย่างจริงจัง
.
เลือกคนที่เราอยากรักให้ดี งานที่เราอยากทุ่มเทให้มันหน่อย สิ่งที่เรายอมเหนื่อย ยอมล้ม ยอมลองผิดลองถูก เพราะเรารู้ว่ามันไม่ได้มี “โอกาสไม่จำกัด” ให้ลองใหม่เรื่อย ๆ
.
ถ้าชีวิตเราคงอยู่ตลอดไปแบบที่ไม่มีอะไรต้องเสีย เราคงไม่เห็นคุณค่าของอะไรทั้งนั้น
.
ในมุมหนึ่งมันเศร้า แต่ในมุมหนึ่งมันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ทุกอย่าง (รวมถึงตัวเราเองด้วย) มีวันจบ
.
และนั่นแหละคือเหตุผลที่ ‘วันนี้สำคัญมากกว่าที่เราคิดเยอะเลย’
[ #เก่งแบบเป็ด 🦆 ]
[ Better, Not Done ]

Leave a comment