พูดกันตามตรง ‘ความเป็นชาย’ ในยุคนี้มันค่อนข้างสับสนไม่น้อย คุณถูกคาดหวังให้ “เข้มแข็ง” แต่ห้าม “ก้าวร้าว” ต้อง “เป็นผู้นำ” แต่ห้าม “กดขี่” ต้อง “ประสบความสำเร็จ” แต่ก็ต้อง “โฟกัสสุขภาพจิตด้วยนะ”
.
ฟังดูเหมือนเราถูกให้โจทย์คณิตศาสตร์ที่คำตอบเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตอนที่เรานั่งลงแก้โจทย์นั้นๆ
.
นี่คือ’เหตุผลที่ Scott Galloway เขียนหนังสือเล่มใหม่ชื่อ ‘Notes on Being a Man’ ขึ้นมา
.
มันเป็นทั้งบันทึกส่วนตัว บทวิเคราะห์สังคม และจดหมายถึงลูกชายสองคนในยุคที่ “ความเป็นชาย” กลายเป็นหัวข้อที่อ่อนไหว ถูกเข้าใจผิด และถูกทำให้กลายเป็นตัวร้ายในวาทกรรมร่วมสมัย
.
หลังจากที่เขาเห็นข้อมูลและจากอีเมลนับพันที่ได้รับว่าเด็กผู้ชายและผู้ชายหนุ่มกำลังเผชิญปัญหามากมาย ทั้งเรื่องการศึกษาที่แย่ลง รายได้ถดถอย รู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น เสพติดหน้าจอเพิ่มขึ้น หางานยากขึ้น และจำนวนคนที่ “ไม่เรียน ไม่ทำงาน” สูงเป็นประวัติการณ์
.
Galloway เลยพยายามที่ตอบคำถามที่สำคัญ (แต่คนไม่ค่อยพูดกัน) ว่า “ทำไมไม่มีใครพูดถึงปัญหานี้อย่างจริงจัง?” ทำไมบทสนทนาเรื่องผู้ชายจึงมีแต่คำว่า “toxic masculinity” แทนที่จะพูดถึงการพัฒนาความเป็นชายในแบบที่สร้างสรรค์มากกว่านี้?
.
และนั่นทำให้ผู้ชายจำนวนมากรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติกับตัวเอง ทั้งที่จริง ๆ แล้วคุณอาจจะแค่ขาดแนวทางที่จำเป็นสำหรับยุคสมัยนี้มากกว่า
.
แล้วแนวทางนั้นหน้าตาเป็นยังไง?
.
Galloway เสนอกรอบง่าย ๆ สามคำ : ‘Protect, Provide, Procreate’ หรือพูดให้เข้าใจง่ายคือ ‘ปกป้อง, สร้างคุณค่า, และ หล่อเลี้ยงชีวิต’ ไม่ว่าจะมีลูกหรือไม่ก็ตาม นี่ไม่ใช่บทบาทที่กดทับผู้ชาย แต่เป็นเสาหลักที่ช่วยให้ผู้ชายยืนได้อย่างมั่นคงในโลกที่ทุกอย่างคลอนแคลนไปหมด

1.Protect — การปกป้องที่ไม่ใช่เรื่องกล้าม แต่คือความกล้า
“ในภาษาเยิดดิช คำว่า mensch แปลว่า ‘คนที่ยุติธรรม ซื่อสัตย์ หรือมีเกียรติ’” Galloway เขียนไว้ “มันเป็นคำสั้น ๆ ที่อธิบายความเป็นชายที่ดีในปี 2025 ได้อย่างชัดเจน สัญชาตญาณแรกของ mensch คือการปกป้อง การเสียสละเพื่อตัวอะไรบางอย่างที่ใหญ่กว่าตัวเอง และไม่ใช่การรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า แต่คือการดูแลครอบครัวและชุมชนของตัวเอง”
.
และสำคัญที่สุด—ปกป้องตัวเองจากเวอร์ชันที่แย่ที่สุดของตัวเอง
.
นั่นต่างหากคือ “ความแกร่ง” แบบที่ไม่ต้องทำร้ายใคร
.
ผู้ชายที่เอาความโกรธ ความก้าวร้าว หรืออีโก้มาสร้างความกลัวให้คนรอบตัว ไม่ใช่ “ผู้ชาย” นั่นคือ “anti-masculine” คือสิ่งตรงข้ามของความเป็นชายที่ดีด้วยซ้ำ
2. Provide — การให้ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินเสมอไป
หนึ่งในความกดดันใหญ่ที่สุดของผู้ชายยุคนี้ คือเรื่องการหาเงิน แต่ในโลกที่เศรษฐกิจซัดทุกคนเหมือนกันแบบไม่ไว้หน้า การผูกคุณค่าในตัวเองไว้กับรายได้ คือสูตรลับสู่ความหายนะทางอารมณ์เลยทีเดียว
.
Galloway เขียนว่า “ผู้ชายไม่จำเป็นต้องหาเงินเก่งที่สุดในบ้าน แต่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของตัวเองและคนที่เขารัก”
.
ความหมายของการ “Provide” ถูกตีความใหม่แล้ว
.
วันนี้มันหมายถึง…
- ให้ความมั่นคงทางอารมณ์
- ให้ความซื่อสัตย์
- ให้พื้นที่ปลอดภัยให้คนที่เรารักได้เติบโต
- ให้ความรับผิดชอบ กับความพังที่เราสร้างขึ้นในอดีต
มันหมายถึงการยอมถอยให้คนที่ทำได้ดีกว่าในบางเรื่องโดยไม่ต้องรู้สึกเสียหน้า
3. Procreate — สร้างสิ่งที่ยืนยาวกว่าเรา
หลายคนเข้าใจคำนี้ผิดว่า “ต้องมีลูกเท่านั้น”
.
ไม่ใช่เลย
.
Galloway บอกว่า การ Procreate คือ “การทำให้บางอย่างดำรงอยู่ต่อไป”
.
จะเป็นลูก หลาน เพื่อน ลูกศิษย์ หรือโปรเจกต์ที่คุณทุ่มเทก็ได้ทั้งนั้น
.
มันคือการปล่อยให้โลกได้รับประโยชน์จากการที่คุณเคยอยู่ตรงนี้
.
และถ้าคุณเป็นพ่อ หน้าที่ของคุณไม่ใช่แค่เลี้ยงลูกให้รอด แต่คือการเลี้ยงลูกให้ “ดีกว่าคุณ”
.
ฉลาดกว่า แข็งแรงกว่า ใจเย็นกว่า เข้มแข็งกว่า มีความหวังมากกว่า
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดี
- สร้างคนรุ่นต่อไปผ่านการเป็นพี่ เป็นเพื่อน หรือเป็นหัวหน้า
- สร้างงาน สร้างไอเดีย สร้างคุณค่าเล็ก ๆ ให้โลกใบนี้
คุณไม่จำเป็นต้อง “เป็นชายแท้แบบในหนังแอ็กชัน” ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ ไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด รวยที่สุด หรือเข้มแข็งที่สุด
.
ความเป็นชายไม่ต้องการซูเปอร์ฮีโร่ แต่แค่เป็น “มนุษย์ผู้พยายาม” พร้อมจะปกป้องในสิ่งที่สำคัญ พร้อมจะให้แม้ในวันที่ตัวเองไม่สมบูรณ์ และพร้อมจะส่งต่อคุณค่าสักอย่าง แม้เล็กน้อย ให้โลกนี้ดีกว่าเดิมนิดหนึ่ง
.
แค่เป็นผู้ชายที่ “ไม่หนีจากความรับผิดชอบของตัวเอง”
.
ไม่ต้องรวย ไม่ต้องหล่อ ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ
.
แค่เป็นคนที่พยายามให้โลกนี้ดีขึ้นผ่านวงกลมเล็ก ๆ รอบตัวคุณ
[ เก่งแบบเป็ด 🦆]
[ Better, Not Done ]

Leave a comment